ในแต่ละวันที่เราใช้ชีวิตและเติบโต แต่ก็มีหนึ่งสิ่งที่ถดถอยลงทุกวินาที นั่นก็คือ โลกของเรานี่เอง
เพราะนับวันที่มนุษย์แข็งแรงขึ้นเท่าไร โลกก็อ่อนแอลงมากขึ้นเท่านั้น 22 เมษายนนี้ “Earth Day วันคุ้มครองโลก” ถือเป็นวันดี ที่เราควรร่วมทำสิ่งดีๆ เพื่อโลกที่น่าอยู่ และยั่งยืนไปด้วยกัน
…และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ที่แสนสิริ เราได้มุ่งมั่นต่อการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาโดยตลอด ทั้งเรื่องของ การลดการใช้พลังงาน ลดปริมาณขยะ ควบคุมคุณภาพน้ำทิ้ง การส่งเสริมการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบการจัดการที่ช่วยปกป้องและป้องกันมลภาวะ รวมถึงการตั้งเป้าหมายที่จะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น “ศูนย์” ให้จงได้
RENEWABLE ENERGY
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษ์โลก คือการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งแสนสิริเรามุ่งเน้นไปที่การลดการใช้พลังงานที่ส่งผลให้เกิดมลภาวะกับโลก และหันมาโฟกัสไปที่พลังงานทดแทน โดยเฉพาะการตั้งเป้าเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และใช้พลังงานสะอาด 100% ใน 3 ปี ไม่ว่าจะเป็น
• ติดตั้งโซลาร์รูฟ ในส่วนกลางของโครงการใหม่ 100% และในบ้านทุกหลังของโครงการใหม่ในระดับบน 100%
• ไฟในสวนต้องเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ 100% ทุกโครงการใหม่ภายในปีนี้
• นำร่องใช้พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับไฟถนนในโครงการ และเป็น 100% ในอนาคต
• ส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า นำร่องส่วนกลางของทุกโครงการใหม่ มี EV Charging Station หรือแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2568
• ติดตั้ง EV Charger ในบ้านทุกหลังของโครงการระดับบน 100%
• แยกขยะรีไซเคิลจากการก่อสร้างและโรงงาน Precast 70% ภายในปี 2568
• โครงการใหม่กว่า 70% จะออกแบบด้วยนวัตกรรมบ้านเย็น ’Cooliving Designed Home’ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิและประหยัดพลังงาน ภายในปี 2573
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการประหยัดไฟฟ้าอาคารสิริ แคมปัส อย่างเช่น การรณรงค์ให้พนักงานช่วยกันประหยัดไฟ หรือโครงการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ในปีที่ผ่านมา ก็สามารถช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ลงเป็นอย่างมากถึง 49.9%
SANSIRI BACKYARD
Sansiri Backyard คือการสานต่อวิสัยทัศน์ด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม Sansiri Green Mission แนวคิดเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน ที่จะสร้างจุดเปลี่ยนเพื่อโลกของเรา ด้วยการเนรมิตที่ดินรอพัฒนา ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวอุดมไปด้วยผัก ผลไม้ออร์แกนิก กว่า 20 ไร่ เกิดระบบนิเวศขนาดย่อมใจกลางเมือง
ซึ่งที่นี่นอกจากจะได้กลายเป็นคอมมูนิตี้สีเขียวเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนแล้ว ยังเป็นการจุดประกายแรงบันดาลใจสานต่อไปสู่ทุกโครงการของแสนสิริ สร้างจิตสำนึกให้คนเมืองเปลี่ยนพื้นที่ว่างรอบตัวให้เป็นพื้นที่สีเขียวอย่างสร้างสรรค์ พร้อมร่วม ‘สร้าง-ปลูก-แบ่งปัน’ ผลผลิตสู่สังคมอย่างยั่งยืน
WASTE MANAGEMENT
รู้หรือไม่ว่า? กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยสามารถสร้างขยะได้ถึงเกือบหนึ่งหมื่นตันต่อวัน! เราจึงให้ความสําคัญต่อการบริหารจัดการของเสียที่เกิดขึ้นเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยเฉพาะหลักการสำคัญ 3R (Reduce, Reuse, Reuse) เพื่อให้เกิดขยะที่ต้องนำไปฝังกลบให้น้อยที่สุด
ในปี 2564 แสนสิริเก็บปริมาณของเสียขยะมูลฝอยของทั้งหมด ปริมาณ 2,830 ตัน ประกอบด้วยขยะประเภท กระดาษ พลาสติก ขยะอินทรีย์ แก้ว โลหะ ขยะจากการก่อสร้าง และอื่นๆ ซึ่งเราสามารถแยกขยะรีไซเคิลได้มากกว่า 55.4% ปริมาณรวมทั้งสิ้น 1,568 ตัน นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ให้คนงานร่วมแยกขยะ เพื่อสามารถนำส่งไปรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ จนเป็นนิสัยติดตัว
โครงการ “waste to WORTH : แยกขยะ ให้เกิดประโยชน์” ที่แสนสิริริเริ่มมากว่า 3 ปี เราส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในการแยกขยะรีไซเคิลตั้งแต่ต้นทางให้เกิดประโยชน์ โดยเราได้เชิญชวนลูกบ้านและทุกคน ‘ล้าง-ตาก-ทิ้ง’ ขยะพลาสติกแบบย่อยสลายไม่ได้ ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ของใช้ที่มีมากในที่พักอาศัย เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการแปรรูปอัปไซเคิล จนสามารถหมุนเวียนและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อย่าง อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือด้านโควิด ชุด PPE และเตียงสนาม
SANSIRI TREE STORY
จากพื้นที่ในเมืองใหญ่ที่เน้นพื้นที่อยู่อาศัย ส่งผลทำให้พื้นที่สีเขียวในเมืองนั้นลดลงไป และชีวิตคนเมืองนั้นห่างไกลจากธรรมชาติออกไปทุกที อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลา 37 ปีที่ผ่านมา “ต้นไม้” คือสิ่งแสนสิริตั้งใจเก็บ รักษาและดูแลมาตลอดทุกๆ ต้นในทุกโครงการ ผ่านโมเดลจัดการพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ในโครงการอย่างยั่งยืน Sansiri Tree Story ที่มุ่งมั่นยึดถือมาตลอดของการดำเนินธุรกิจ ด้วยการออกแบบพื้นที่สีเขียวและจัดการต้นไม้ผ่าน 4 กระบวนการแห่งความใส่ใจ “ เก็บ เลือก ปลูก และรักษา” เพื่อที่จะส่งต่อคุณค่าของพื้นที่สีเขียวเหล่านี้
“เก็บ” รักษาต้นไม้เดิมไว้ในพื้นที่โครงการ หากต้องย้ายต้นไม้ก็จะย้ายอย่างถูกต้องตามหลักการและย้ายไปยังตำแหน่งที่อยู่ระยะใกล้ที่สุด นอกจากนี้ยังมีการปรับแปลนโครงสร้างอาคารเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายต้นไม้อีกด้วย
“เลือก” ชนิด ขนาดของต้นไม้ และการจัดวางตำแหน่งตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะกับการใช้งานและสถานที่ ทั้งยังเลือกใช้ต้นไม้เพาะชำจากเนอสเซอรี่ต้นไม้ป่าปลูก ทดแทนการนำออกมาจากป่า
“ปลูก” ต้นไม้ให้ถูกต้องตามหลักการ ทั้งการเตรียมพื้นที่ วัดระยะห่าง เตรียมหลุม ตลอดจนใช้ไม้ค้ำยันต้นไม้เพื่อให้เติบโตได้อย่างมั่นคง
“รักษา” และใส่ใจต้นไม้ด้วยคำแนะนำจาก “หมอต้นไม้หรือรุกขกร” ผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ ที่เข้ามาช่วยดูแลและให้คำปรึกษาเรื่องการรักษาต้นไม้ นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมคู่มือการดูแลต้นไม้ จัดสัมมนาเพื่อจัดการต้นไม้ใหญ่อย่างถูกวิธีและยั่งยืน
นี่คือปรัชญาแห่งความใส่ใจที่จะ เก็บ เลือก ปลูก และรักษา คุณค่าจากธรรมชาติไว้อย่างยั่งยืนที่สุด ไม่ว่ากี่โครงการจะสำเร็จไป ทุกครั้งเรายังคงวางแผนการดูแลต้นไม้ระหว่างก่อสร้างและชีวิตของต้นไม้เสมอมา
PRECAST CONCRETE
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการก่อสร้างทำให้เกิดขยะตามมา อย่างไรก็ตามแสนสิริได้นำนวัตกรรมมาใช้เพื่อลดขยะสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังสามารถอัปไซเคิลให้เกิดประโยชน์ได้อีก อย่าง Sansiri Precast Factory โรงงานที่นำคอนกรีตที่เหลือจากการเทชิ้นงานคอนกรีตสำเร็จรูปไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่น รวมถึงนำเศษคอนกรีตที่เหลือไปคัดแยก ทราย และน้ำปูน เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
ซึ่งที่นี่เราได้ตั้งเป้าหมายการนำของเสียไปรีไซเคิลในกระบวนการผลิตเพื่อลดของเสียที่นำไปฝังกลบให้ได้ 99% ซึ่งจะเป็นการช่วยลดขยะสู่สิ่งแวดล้อม และสุดท้ายเราก็สามารถบรรลุได้ตามเป้าหมาย ทั้ง
• ลดปริมาณขยะกว่า 180 ตัน จากการก่อสร้างโดยใช้แผ่น Precast แทนการก่อสร้างแบบ Conventional
• ลดปริมาณการซื้อเหล็กตะแกรง 100% โดยปรับเป็นการทำตะแกรงเอง ทำให้ลดปริมาณขยะจากเหล็กผลิตตะแกรงได้ 100% หรือเท่ากับ 200,000 ตร.ม. หรือเท่ากับปริมาณเหล็ก 460 ตัน
• เหลือปริมาณขยะกากซีเมนต์แห้ง จากการผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปไม่เกิน 1% คิดเป็นเพียงปริมาณ 461.57 ตัน
สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้จากรางวัล Green Factory พร้อมทั้งได้รับ ISO9001 และ ISO14001 จากมาตรฐานของระบบบริหารคุณภาพ (QMS) และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ (EMS)
ถึงเวลาแล้วที่เรา และ ’คุณ’ ต้องมาช่วยกันให้โลกกลับมาแข็งแรงดังเดิม ดูแลคุณค่าของธรรมชาติให้คงอยู่คู่ชุมชน สังคม และโลกของเราต่อไป ให้ทุกชีวิตบนโลกได้เติบโตไปพร้อมกันและพึ่งพาอาศัยกันเช่นนี้ตลอดไปเพราะโลกใบนี้ไม่ใช่ของแค่คนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของพวกเราทุกคน